วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส
ทรงพระราชนิพนธ์ลิลิตตะเลงพ่ายขึ้น เพื่องานพระราชพิธีฉลองตึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยอพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ทรงมีชัยชนะเหนือพม่า สามารถกอบกู้เอกราชของชาติได้สำเร็จ
ลักษณะคำประพันธ์
            ลิลิตสุภาพ ประกอบด้วยร่ายสุภาพ โคลงสองสุภาพ โคลงสามสุภาพ และโคลงสี่สุภาพ
เนื้อเรื่องมีความคล้ายคลึงกับที่ปรากฏในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา
เนื้อเรื่องย่อ
          ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) มีการบันทึกไว้ว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๑๓๓ พระเจ้ากรุงหงสาวดีนันทบุเรงทรงทราบข่าวว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชาเสด็จสววคต แผ่นดินไทยคงกำลังระสำ่ระสาย อาจมีเหตุวุ่นวายด้วยพระโอรสทั้งสองพระองค์ชิงราชบัลลังก์ จึงโปรดให้พระมหาอุปราชายกกลองทัพเข้าตีกรุงศรีอยุธยา โดยทัพพม่าเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์งนำทัพออกไปรับศึกพม่านอกพระนครทร เข้าตีที่เมืองกาญจนบุรีก่อน ขณะนั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทย ทรงกำลังจะเตรียมทัพไปรบกับเขมร แตต่เมื่อทรงทราบข่าวศึกพม่า จึงนำทัพออกไปรับศึกพม่านอกพระนครทร ทัพไทยและทัพพม่ารบกันที่ตำบลตระพังตรุ จังหวัดสุพรรณ ช้างของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและช้างของสมเด็จพระเอกาทศรถตกมัน จึงเตลิดเข้าไปอยู่ในวงล้อมข้าศึก โดยไม่มีกองทัพของพระองค์ติดตามไปด้วย สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเชิญให้พระมหาอุปราชาเสด็จมากระทำยุทธหัตถีด้วยกัน พระมหาอุปราชาเพลี่ยงพล้ำต้องพระแสงข้อง้าวของสมเด็จพระนเรศวมหาราชสิ้นพระชนม์บนคอช้าง
               หลังจากเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยาแล้ว ทรงปูนบำเหน็จทหารที่มีความดีความชอบในการรบ และทรงตัดสิ้นโทษทหารที่ตามเสด็จไม่ทัน แต่สมเด็จพระวันรรัต วัดป่าแก้ว ได้กราบทูลขอพระราชทานอภัยโทษทหารที่ตามเสด็จไม่ทัน สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็ทรงยินยอมและให้ยกทัพไปตีเมืองทวายและตะนาวศรีเป็นการไถ่โทษ




ที่มา : สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ